วันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2566

📅 เนื่องในโอกาสวันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2566 ได้จัดกิจกรรมวันแม่ ณ 💙โรงพยาบาลพีเอ็มจี (ชั้น G) 💛 โดยมี พญ.มะลิ วิโรจน์สกุลชัย และพญ.กรวีร์ วิโรจน์สกุลชัย เป็นผู้กล่าวเปิดงาน และยังมี หุ่นยนต์ดินสอ🤖 คอยให้การต้อนรับ
.
💐 เพื่อจัดกิจกรรมมอบดอกมะลิให้กับคุณแม่ที่เข้าร่วมกิจกรรม เพื่อเป็นของขวัญแทนความรักแด่คุณแม่ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่น พร้อมแนะนำบริการ และโปรโมชั่นต่างๆ ของโรงพยาบาล อีกทั้งยังมีการเข้าเยี่ยมผู้ป่วยภายใน Ward สร้างความประทับใจให้แด่คุณแม่ทุกท่านเป็นอย่างยิ่ง 🏥🙏

พญ.กรวีร์ วิโรจน์สกุลชัย
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทพระราม 2 เมดิคอล กรุ๊ป จำกัด

ทางโรงพยาบาลพีเอ็มจี ได้มีการจัดกิจกรรมเนื่องในโอกาสวันแม่แห่งชาติขึ้นมา จึงขอโอกาสนี้พูดถึงเรื่อง
Core Value ภายในองค์กรของเราว่า PMG คืออะไร
  1. P ย่อมาจาก PROFESSIONALISM
  2. M ย่อมาจาก MORAL
  3. G ย่อมาจาก GROWTH AND DEVELOPMENT
               Core value คือ Mindset ที่เราอยากให้พนักงานในองค์กรเรามี และถือปฏิบัติการเป็นคนที่ดีนั้น จะต้องเริ่มต้นจาก Mindset ที่ดี และถูกต้อง มันจะเป็นเสมือนเข็มทิศชีวิต ให้เราเดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง “ ชีวิตคนเราเหมือนคนตาบอด ตอนที่เป็นเด็ก เคยได้ยินประโยคนี้จาก คุณพ่อก็ไม่ค่อยเข้าใจมากนัก จนกระทั่งโต ขึ้นมาเรื่อยๆ ก็เป็นอย่างที่คุณพ่อว่าบอกไว้จริงๆ  เราไม่สามารถรู้อนาคต ในเรื่องของชีวิต ทำได้แต่คาดเดาว่าน่าจะเป็นเท่านั้น จากสิ่งที่เคยได้เรียนรู้มา โดยเฉพาะเรื่องที่สำคัญๆ เช่น เราเลือกเรียนคณะนี้ ในอนาคต ก็น่าจะดีถ้าเราเลือกทำงานนี้ต่อไปน่าจะดี ดังนั้น เราต้องมีเข็มทิศนำทางชีวิตที่ถูกต้อง และ Mindset หรือ กรอบความคิดที่ดีนี้แหละ คือ เข็มทิศ ที่ดีที่สุด ”

วันนี้เนื่องในโอกาสวันแม่ ขอถือโอกาสเน้นย้ำ Core Value เรื่อง Moral หรือ จริยธรรม  ในเรื่องของความกตัญญูกตเวทีนั้นต้องเริ่มต้นจากความรู้สึก เหมือนความรัก เราต้องมีอารมณ์มีความรู้สึกถึงความกตัญญูก่อน แล้วหลังจากนั้นมันจะออกมาเป็นการกระทำ  ซึ่งการกระทำเพื่อแสดงออกถึงความกตัญญูนั้นมีมากมายหลากหลาย ขึ้นอยู่กับค่านิยมของแต่ละคน มองลึกลงไปในความกตัญญูกตเวที แท้จริงมันคือความหมายของมันคือความรู้สึกขอบคุณ แล้วเราให้อะไรตอบแทน คือการ Give and Take  เมื่อเราได้รับการดูแล หรือการช่วยเหลือจากใครเราจะรู้สึกขอบคุณ แล้วเราอยากที่จะทำอะไรให้กลับเขาเพื่อเป็นการตอบแทน สิ่งนั้นมันคือ การรู้จักให้

บางคนเข้าใจผิดว่า ความกตัญญู คือการตอบแทนให้กลับ มันจะมาเมื่อเรารู้สึกได้อะไรจากใครบางคนแล้วเท่านั้น เราจึงจะอยากตอบแทนให้เขากลับไป ทำให้คนหลายคนสร้าง Condition ให้ความกตัญญูว่าถ้าเรายังไม่ได้อะไรมาก่อน เราก็ยังไม่ต้องให้กลับ ยกตัวอย่างเช่น เราต้องมีความกตัญญูต่อ พ่อ แม่  ในฐานะที่บุคคลทั้ง 2 ท่านเป็นผู้ให้กำเนิด และเลี้ยงดูเรามา

แต่ก็จะมีบางคนถามว่า ถ้าพ่อแม่ไม่ได้เลี้ยงเรามาล่ะ แล้วถ้าชีวิตที่เค้าให้เรามามันไม่มีความสุขล่ะเราต้องตอบแทนกลับไหม? ขอให้คิดใหม่ค่ะ เราได้ออกมาสัมผัสชีวิต ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีที่สุด เราได้มีโอกาสที่จะมีความสุข แต่ชีวิตเราจะดีหรือไม่ดีมันขึ้นอยู่ที่เราเลือกที่จะทำ แต่อย่างน้อยเราก็ได้โอกาสที่ยิ่งใหญ่ คือ ได้มีชีวิตออกมา ได้มีโอกาสที่จะไปที่ต่างๆ ได้เลือกทำในสิ่งต่างๆ และพบเห็นสิ่งมากมาย นั้นเป็นหน้าที่ของเราเองที่จะต้องพัฒนาให้ชีวิตเราดีขึ้นเรื่อยๆ  ถึงแม้จะมีช่วงที่เหนื่อย ลำบาก เสียใจ แต่ก็มีช่วงเวลาที่ดี มีความสุข และประสบความสำเร็จแทรกอยู่เสมอ  ดังนั้นจงรู้สึกขอบคุณที่มีคนมอบโอกาสนี้ให้กับเรา  และยิ่งถ้าคนนั้นเป็นพ่อกับแม่ที่เลี้ยงเรามายิ่งต้องรู้สึกขอบคุณ

        ดังนั้น จึงอยากให้ปรับความคิดใหม่ ในฐานะที่เราเป็นลูก ขอให้ความกตัญญูของเราคือการให้ ไม่ใช่เรื่องของการตอบแทน เพราะเพียงเราได้โอกาสใช้ชีวิตมันคือของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว และอย่างที่เคยพูดไปก่อนหน้านี้ว่า ความกตัญญู มันเริ่มจากความรู้สึกหลังจากนั้นค่อยนำไปสู่การกระทำ แต่ผู้รับเขาไม่อาจรับรู้ความรู้สึกของเราได้นะ ถ้าไม่มีการกระทำอะไรออกมา จึงขอถือโอกาสเนื่องในวันแม่ปีนี้ ให้ทุกคนได้มีโอกาสส่งมอบความรู้สึก และแสดงการกระทำถึงความกตัญญูที่เรามีต่อคุณแม่ออกมาร่วมกันนะคะ