ผู้ชายหลั่งบ่อย ลดความเสี่ยงมะเร็งต่อมลูกหมาก จริงหรือ?
“มะเร็งต่อมลูกหมาก” เป็นมะเร็งที่ถูกพบบ่อยเป็นอันดับ 2 ของผู้ชายไทย (รองลงมาจากมะเร็งปอด) อัตราการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก รายใหม่ประมาณ 3,700 รายต่อปี สำหรับการเสียชีวิตจากมะเร็งต่อมลูกหมาก กระทรวงสาธารณสุขรายงานว่าแต่ละปีจะมีผู้เสียชีวิตจากมะเร็งต่อมลูกหมากประมาณ 1,700 ราย
ปัจจุบันสาเหตุของการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากยังไม่ทราบแน่ชัด แต่มีการศึกษาวิจัยพบว่ามีปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรค เช่น อายุที่มากขึ้นโดยเฉพาะผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป หรือผู้ที่มีประวัติญาติสายตรงเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก เป็นต้น แต่มีผู้คนจำนวนมากสงสัยและตั้งสมมติฐานเกี่ยวกับการช่วยตัวเองหรือการมีเพศสัมพันธ์ว่ามันส่งผลต่อการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากหรือไม่ แต่โชคดีที่มันไม่ใช่ การช่วยตัวเองหรือการมีเพศสัมพันธ์อาจจะเป็นตัวช่วยให้ต่อมลูกหมากแข็งแรงกว่าก็เป็นได้
การวิจัยแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงที่เป็นไปได้ จากการศึกษาผู้ชายในช่วงอายุระหว่าง 20-40 ปี พบว่าผู้ชายที่มีการหลั่งบ่อยขึ้น ไม่ว่าจะระหว่างการมีเพศสัมพันธ์หรือการช่วยตัวเอง อาจช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งต่อมลูกหมากได้ โดยจากการศึกษาพบว่าผู้ชายที่หลั่งออกมาอย่างน้อย 21 ครั้งต่อเดือน ลดความเสี่ยงของมะเร็งต่อมลูกหมากได้ประมาณ 20% เมื่อเทียบกับผู้ชายที่หลั่งเพียง 4-7 ครั้งต่อเดือน
การหลั่งบ่อยกระทบกับต่อมลูกหมากอย่างไร?
ต่อมลูกหมากเป็นส่วนหนึ่งของระบบสืบพันธุ์เพศชาย อยู่ที่จุดเชื่อมต่อของระบบสืบพันธุ์และทางเดินปัสสาวะ ซึ่งช่วยกำหนดเส้นทางของสเปิร์มในการหลั่งอสุจิ โดยพุ่งออกมาในท่อปัสสาวะ
จากทฤษฎีพบว่าสารก่อมะเร็งตามธรรมชาติถูกสร้างขึ้นภายในต่อมลูกหมาก สะสมความเสี่ยงจนเกิดเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก ดังนั้นการพุ่งออกมาของอสุจิ อาจช่วยกวาดล้างสารก่อมะเร็งที่อาจเป็นอันตรายเหล่านี้และลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากได้ โดยมีการยืนยันจากผลการศึกษาที่ถูกตีพิมพ์ในปี 2018 ซึ่งพบความเชื่อมโยงทางชีววิทยาระหว่างการหลั่งบ่อยครั้งและการพัฒนาของเนื้องอกต่อมลูกหมาก
อย่างไรก็ตาม การหลั่งบ่อยๆ ไม่สามารถช่วยชะลอการขยายตัวของต่อมลูกหมากหรือต่อมลูกหมากโต (BPH) ที่เกิดขึ้นเมื่อมีอายุมากขึ้นได้
ประโยชน์อื่นๆ ของการหลั่งจากการมีเพศสัมพันธ์หรือช่วยตัวเอง
การหลั่งจากการมีเพศสัมพันธ์หรือการช่วยตัวเอง นอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งต่อมลูกหมากแล้ว ประโยชน์อื่นๆของการมีเพศสัมพันธ์หรือการช่วยตัวเองยังมีอีก ถ้าคุณถามหมอโรคหัวใจ การมีเพศสัมพันธ์ก็เปรียบสเหมือนการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ ซึ่งรวมไปถึง
- ช่วยลดความเครียด ในระหว่างการหลั่ง ร่างกายจะปล่อยสารแห่งความสุข หรือที่รู้จักกันในชื่อ โดปามีน(Dopamine) ออกมา ซึ่งเมื่อสารตัวนี้ถูกปล่อยออกมาเยอะจะทำให้รู้สึกมีความสุขและผ่อนคลาย
- ช่วยเผาผลาญแคลอรี่ พลังงานที่ถูกใช้ในระหว่างมีเพศสัมพันธ์ จะเผาผลาญแคลอรี่ไปมากกว่า 100 แคลอรี่ และมันเป็นเรื่องดีที่ได้ออกกำลังกายกับเพื่อน
- ช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน การวิจัยพบว่าผู้คนที่มีเพศสัมพันธ์หนึ่งถึงสองครั้งต่อสัปดาห์ช่วยเพิ่มแอนติบอดี้ป้องกันความเจ็บป่วยในระดับที่สูงกว่า
- ช่วยลดความเจ็บปวด สารเอ็นโดฟินส์(Endorphins) ที่ปล่อยออกมาในระหว่างมีเพศสัมพันธ์ ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดทางธรรมชาติ ในความเป็นจริงจากการวิจัยพบว่าการมีเพศสัมพันธ์ช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะและไมเกรนได้
สรุป
การหลั่งจากการมีเพศสัมพันธ์หรือการช่วยตัวเอง อาจจะเป็นประโยชน์อย่างมากและช่วยลดอัตราเสี่ยงมะเร็งต่อมลูกหมากได้ถ้าทำอย่างปลอดภัย และนอกจากนี้มะเร็งต่อมลูกหมากสามารถป้องกันได้ด้วยการตรวจสุขภาพประจำทุกปี รวมไปถึงการดูแลตัวเอง ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ และหมั่นสำรวจตัวเอง ถ้าพบว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นกับระบบขับถ่ายปัสสาวะควรรีบไปปรึกษาแพทย์ทันที
บทความที่เกี่ยวข้อง
โรคริดสีดวงถือเป็นปัญหาที่กวนใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเจ็บปวดที่รบกวนทางกาย และรบกวนการใช้ชีวิตของใครหลายๆคน ปัจจุบันได้มีทางเลือกในการรักษาผู้ป่วยให้หายขาดได้ โดยที่เจ็บตัวน้อย ฟื้นตัวได้ไว และทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
- 5,647
