วิธีดูแลเด็กในช่วงโควิด-19 สวมหน้ากากอนามัยในเด็กอย่างไรดี
จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น การป้องกันด้วยการดูแลสุขภาพตนเองและคนที่คุณรักยังเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งวิธีการสวมใส่หน้ากากอนามัยยังคงเป็นวิธีป้องกัน ที่ควรปฎิบัติเพราะสามารถช่วยลดกระจายของเชื้อโรค จากตัวผู้ติดเชื้อได้ แต่ก็ใช่ว่าจะเหมาะสมและปลอดภัยไปเสียทุกคน โดยเฉพาะเด็กเล็ก ๆ หรือทารกแรกเกิด
เพื่อความปลอดภัย และป้องกันเชื้อโรคอย่างถูกต้องเหมาะสม การสวมหน้ากากอนามัยในเด็กต้องดูแลอย่างไร อายุเท่าไหร่ถึงควรสวมใส่หน้ากากอนามัย พ่อแม่ผู้ปกครองควรรู้ไว้ เพื่อดูแลบุตรหลานได้อย่างเหมาะสม
การสวมหน้ากากอนามัยในเด็กสำคัญอย่างไร?
การสวมหน้ากากอนามัยในเด็ก เป็นสิ่งที่ช่วยให้เด็ก ๆ ลดโอกาสสัมผัสเชื้อไวรัส จากการ ไอ หรือจาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะห่างน้อยกว่า 2 เมตร แต่พ่อแม่ผู้ปกครอง ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ไม่ใช่เด็กทุกวัยจะเหมาะสมที่จะสวมใส่หน้ากากอนามัยได้ โดยเฉพาะเด็กเล็ก ๆ
เพื่อให้การป้องกันมีประสิทธิภาพและเกิดความปลอดภัยสูงสุดกับตัวเด็ก จึงต้องรู้ว่าช่วงวัยใดที่เหมาะและไม่เหมาะสมกับการสวมหน้ากากอนามัย ด้วยเหตุผลอะไร
วิธีการสวมหน้ากากอนามัยในเด็กแต่ละวัย
ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) และองค์การยูนิเซฟ (UNICEF) ระบุว่า เด็กอายุระหว่าง 6-11 ปี ควรสวมหน้ากากในสถานการณ์ที่มีความเสี่ยง ส่วนเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ ไม่จำเป็นต้องบังคับให้สวมหน้ากาก โดยยังมีรายละเอียดแนะนำแต่ละช่วงวัยดังนี้
- เด็กทารกแรกเกิด ถึง 1 ปี
กลุ่มทารกแรกเกิดและเด็กเล็ก ถึงจะเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องให้ความสำคัญในการป้องกันการติดเชื้อเป็นพิเศษ แต่ด้วยสรีระของทางเดินหายใจ และกลไกการหายใจที่แตกต่างจากผู้ใหญ่
พ่อแม่ผู้ปกครองจึงไม่ควรสวมหน้ากากให้เด็กทารก เพราะเด็กทารกยังมีระบบหายใจที่ไม่แข็งแรงพอ จึงมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดภาวะคาร์บอนไดออกไซด์คั่ง เกิดอันตรายต่อระบบประสาทของเด็กทารกได้ เนื่องจากทารกแรกเกิดหายใจทางจมูกเป็นหลัก ยังไม่มีความสามารถในการหายด้วยการอ้าปากหายใจเพื่อชดเชยได้
นอกจากนี้การสวมใสหน้ากากอนามัยที่มี วัสดุพลาสติกบังหน้าทารก ความคมของพลาสติกอาจทำให้บาดใบหน้า และดวงตาของทารกได้อีกด้วย
ข้อแนะนำ : หากมีเด็กเล็กในครอบครัว ควรเน้นการ การเว้นระยะห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 2 เมตร งดการสัมผัส จับ กอด หอมแก้ม ในกรณีอุ้มเดิน ควรอุ้มแนบอก หรือใส่ รถเข็นที่มีผ้าคลุมปิดในกรณีที่จำเป็นต้องเดินทาง
- เด็กอายุ 1 ถึง 2 ปี
เด็กในช่วงวัยนี้สามารถเรียนรู้การถอดหน้ากากได้เอง และเริ่มเรียนรู้การหายใจทางปากได้ ดังนั้นเด็กในช่วงวัยนี้สามารถสวมใสหน้ากากอนามัยได้บ้าง ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เพราะหากรู้สึกอึดอัด เด็กสามารถดึงหน้ากากออกจากหน้าเองได้
ดังนั้นจึงยังคงต้องให้ความสำคัญกับการ เว้นระยะห่าง social distancing และลดการสัมผัส
ข้อแนะนำ : ให้ใส่หน้ากากอนามัย เฉพาะช่วงที่ต้องออกไปข้างนอก ในพื้นที่สาธารณะที่มีคนอยู่เป็นจำนวนมาก
- เด็กอายุมากกว่า 2 ปี ขึ้นไป
สำหรับเด็กที่อายุมากกว่า 2 ปี สามารถสวมใส่หน้ากากได้ สามารถถอดหน้ากากออกได้เองเมื่อรู้สึกอึดอัด ยกเว้นเด็กที่มีกล้ามเนื้ออ่อนแรง กลุ่มที่มีความบกพร่องทางสมองหรือ ระบบทางเดินหายใจ
ข้อแนะนำ : ผู้ปกครองควรสวมใส่หน้ากากอนามัยด้วยกันกับเด็ก เพื่อเป็นแบบอย่าง และเพื่อให้เด็กไม่รู้สึกโดดเดี่ยว แปลกแยก รวมถึงควรอธิบายอย่างง่าย ๆ ว่าทำไมถึงต้องใส่หน้ากากอนามัย และเน้นย้ำว่าจำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยเพื่อความปลอดภัย เมื่อเด็กเข้าใจก็จะรู้สึกอุ่นใจที่จะใช้หน้ากาก
- เด็กที่มีอายุมากกว่า 12 ปี
เด็กวัยนี้สามารสวมใส่หน้ากากในสถานการณ์เดียวกับผู้ใหญ่ และให้ความรู้เกี่ยวกับข้อมูลเชื้อโรค ความอันตราย และข้อควรระวังต่าง เพราะเด็กวัยนี้มีความเข้าใจในเรื่องเชื้อโรคมาก ซึ่งจะช่วยให้เข้าควรใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันด้วยตัวเอง
- เด็กที่มีโรคประจำตัวที่ต้องการดูแลเป็นพิเศษ
โดยเฉพาะโรคทางระบบประสาท หรือทางเดินหายใจบกพร่องรุนแรงที่ไม่สามารถใช้หน้ากากอนามัยได้เอง พ่อแม่ผู้ปกครองควรดูแลเรื่องที่อยู่ และสภาพแวดล้อมเคร่งครัด เน้นเรื่องการระยะห่าง