ตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน สิ่งที่คนทำงานควรรู้ ตรวจอะไรบ้าง ราคาเท่าไหร่ ที่ไหนดี?

ในปัจจุบันหลายบริษัทมักให้ตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน มีการขอใบรับรองแพทย์ และการตรวจร่างกายเบื้องต้น จุดประสงค์เพื่อยืนยันความพร้อมสำหรับการเริ่มงานใหม่ โดยรายการที่ต้องตรวจมักเป็นโรคติดต่อหรือปัญหาสุขภาพที่จะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานนั้น ๆ

ในบทความนี้จะแนะนำขั้นตอนการตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน ว่าต้องตรวจอะไรบ้าง ราคาเท่าไหร่ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเริ่มทำงานอย่างมืออาชีพ

ทำไมต้องตรวจสุขภาพก่อนเข้างาน?

ปัจจุบันการตรวจสุขภาพก่อนเข้างานเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับหลาย ๆ บริษัทเพื่อเป็นการเสริมความมั่นใจของบริษัทว่า พนักงานที่เข้ามาทำงานจะมีความพร้อม และสุขภาพที่แข็งแรงพร้อมสำหรับการทำงานเพื่อความปลอดภัยโดยรวมของคนในองค์กรที่ต้องทำงานร่วมกับเรา

ในขณะเดียวกันก็ยังเกิดประโยชน์กับตัวพนักงงานเอง เพราะการตรวจสุขภาพก่อนเริ่มงานก็จะทำให้เราได้ทราบถึงสุขภาพโดยรวมของตนเอง ซึ่งบางครั้งภายนอกอาจดูปกติ แต่แท้จริงแล้วอาจกำลังเจ็บป่วยหรือมีแนวโน้มที่จะเกิดโรคต่าง ๆ ซึ่งหากรู้เร็ว ก็จะสามารถรักษาได้ทัน สามารถลดต้นทุนค่ารักษาพยาบาลที่ต้องจ่ายแต่ละปีโดยไม่จำเป็นอีกด้วย  

ตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน ตรวจอะไรบ้าง?

ในการตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน จะแตกต่างกันไปในแต่ละบริษัท แบ่งเป็น ตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานทั่วไป เช่น วัดความดันโลหิต ชีพจร ดัชนีมวลกาย ฯลฯ เป็นใบรับรองสุขภาพทั่วไป และตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานตามความเสี่ยงของงานที่ทำ บริษัทจะระบุรายการตรวจมาให้ หรือต้องปรึกษาแพทย์อาชีวเวชศาสตร์

1.ซักประวัติและตรวจสุขภาพทั่วไป (Physical exams)
การตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน แพทย์จะมีการซักประวัติเพื่อคัดกรองข้อมูลเบื้องต้น ใช้ประกอบคำวินิจฉัยร่วมกับการตรวจอื่น ๆ เช่น ตรวจวัดสัญญาณชีพ ดัชนีมวลกาย ความดันโลหิต การทำงานของระบบประสาท ตรวจเอกซ์เรย์ปอด ตรวจโรคระบบทางเดินหายใจ ช่องท้อง เพื่อวินิฉัยโรคความดันโลหิตสูง หัวใจ โรคอ้วน เป็นต้น

2.การตรวจวัดทางสายตา
การตรวจวัดทางสายตาจะตรวจด้วยระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อหาปัญหาทางสายตาเบื้องต้น โดยดูที่การตอบสนองของดวงตา ค่าสายตา ตรวจตาบอดสี และสีของตาขาว,ตาดำ

3.ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด
เป็นการตรวจเพื่อวินิจฉัยความผิดปกติของเม็ดเลือด ระดับคอเลสเตอรอล ความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด ค่าไต ค่าไทรอยด์ฮอร์โมน โดยต้องตรวจผ่านห้องปฏิบัติการเพื่อผลการตรวจที่มีความแม่นยำ

4.ตรวจปัสสาวะและตรวจสารเสพติด
ในการตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานเพื่อหาสารเสพติด มักจะตรวจจากปัสสาวะ โดยหาสารเมทแอมเฟตามีน (Methamphetamine) และแอมเฟตามีน (Amphetamine) อีกทั้งยังสามารถตรวจโรคอื่น ๆ จากปัสสาวะ เช่น การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ โรคไต และโรคเบาหวาน

5.ตรวจหาเชื้อไวรัส โรคติดต่อ
ตรวจหาโรคติดต่อที่มีการติดได้จากการใช้ของร่วมกัน หรือติดต่อทางสารคัดหลั่งทางเพศสัมพันธ์ ค่อนข้างมีความสำคัญ เช่น ไวรัสตับอักเสบบี เพื่อสร้างความมั่นใจก่อนเข้าทำงาน ทั้งต่อองค์กรและเพื่อนร่วมงาน

ตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน 5 โรคคืออะไร?

ใบบางบริษัทจะมีการระบุให้ตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน โดยขอใบรับรองแพทย์ 5 โรค จากสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานและน่าเชื่อถือ เพื่อยืนยันว่ามีสุขภาพแข็งแรง ไม่เป็นอุปสรรคต่อการทำงาน และลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคติดต่อร้ายแรงที่ส่งผลต่อบริษัท โดย 5 โรคนี้ ได้แก่

  1. วัณโรคในระยะอันตราย
  2. โรคเท้าช้าง
  3. โรคยาเสพติดให้โทษ
  4. โรคพิษสุราเรื้อรัง
  5. โรคเรื้อรังหรือร้ายแรงอื่น ๆ ที่มีการแสดงอาการอย่างชัดเจน

ทั้งนี้รายละเอียดในการขอใบรับรองจะขึ้นอยู่กับบริษัทว่าต้องการแบบไหน เนื่องจากใบรับรอง 5 โรค สามารถตรวจจากการซักประวัติ และตรวจอาการเบื้องต้นได้ แต่ถ้าบริษัทต้องการความละเอียดและผลการันตี อาจจะมีการให้ระบุผลเลือด ผลการเอ็กเรย์ หรือการตรวจปัสสาวะด้วย

ผู้ชายกับผู้หญิงมีรายการตรวจต่างกันไหม?

การตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานของผู้ชายและผู้หญิง อาจมีแตกต่างกันบ้างในบางรายการ ดังนี้
  • ตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานผู้ชาย ที่แตกต่างจากผู้หญิง เช่น การตรวจคัดกรองมะเร็งต่อมลูกหมาก (มักแนะนำให้ตรวจให้ผู้ชายอายุ 40 ปีขึ้นไป), การตรวจถุงลมโป่งพอง
  • ตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานผู้หญิง ที่แตกต่างจากผู้ชาย เช่น การตรวจภายใน เพื่อคัดกรองมะเร็งปากมดลูก หรือสัญญาณของโรคมะเร็ง, ตรวจเต้านม ด้วยการคลำเต้านมหรือใช้เครื่องแมมโมแกรมถ่ายภาพเต้านม เพื่อหาความผิดปกติของก้อนเนื้อ

การเตรียมตัวเพื่อตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน

  1. เตรียมเอกสารเพื่อยืนยันตัวให้เรียบร้อย เช่น บัตรประชาชนตัวจริง ใบขับขี่
  2. เตรียมใบส่งตัว (ถ้ามี) ผู้รับการตรวจสุขภาพสามารถรับใบส่งตัวจากฝ่ายทรัพยากรบุคคล ในกรณีที่บริษัทมีการร่วมมือกับโรงพยาบาล และอาจมีการส่งผลตรวจไปที่บริษัทโดยตรง
  3. หากมีโรคประจำตัวหรือประวัติสุขภาพ ควรนำเอกสารมาด้วย
  4. พักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง การนอนไม่พอจะส่งผลต่อการเต้นของหัวใจและความดันโลหิต
  5. งดอาหารและเครื่องดื่มอย่างน้อย 8-10 ชั่วโมงก่อนการตรววจ สามารถจิบน้ำเปล่าได้เล็กน้อย
  6. สวมเสื้อผ้าที่ใส่สบายและสะดวกต่อการเจาะเลือดบริเวณข้อพับแขน
  7. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ อย่างน้อย 24 – 48 ชั่วโมง
  8. หากมีโรคประจำตัว ยาที่รับประทานประจำ หรือสงสัยว่าจะตั้งครรภ์ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ก่อนการตรวจ
  9. ผู้ที่ต้องการตรวจหาความเสี่ยงเฉพาะโรค ควรปรึกษาศูนย์ตรวจสุขภาพก่อน
  10. สำหรับโปรแกรมสุขภาพที่มีการตรวจปัสสาวะ ควรปัสสาวะทิ้งเล็กน้อยก่อน แล้วจึงเก็บปัสสาวะตรงช่วงกลาง (Mid Stream)
  11. สำหรับผู้หญิงหากอยู่ในช่วงมีประจำเดือน ควรเว้นช่วงตรวจก่อนและหลังมีประจำเดือน 7 วัน
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานคือช่วงเช้า เพื่อให้มีเวลางดอาหารตอนกลางคืน ดังนั้นเมื่อตรวจสุขภาพเรียบร้อยแล้วควรรับประทานอาหารทันที เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายอ่อนล้าหรืออิดโรย

ตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานราคาเท่าไร?

การตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน ราคาจะแตกต่างกันไปตามแพ็กเกจ และความละเอียดในการตรวจ ที่ โรงพยาบาลPMG มีแพ็กเกจตรวจสุขภาพโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ 

คำถามที่ที่พบบ่อยก่อนตรวจสุขภาพเข้าทำงาน

1. ตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน ต้องงดอาหารไหม?
ต้องงดอาหารก่อนตรวจสุขภาพ 8-10 ชั่วโมง เนื่องจากในอาหารหรือเครื่องดื่ม จะมีสารอาหารที่ทำให้ค่าน้ำตาล, ไขมันไตรกลีเซอไรด์ อยู่ในร่างกายได้นานถึง 10 ชั่วโมง เมื่อตรวจสุขภาพจะทำให้ค่าน้ำตาลหรือไขมันสูงเกินจริงได้  แต่ในกรณีตรวจโปรแกรมตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานมาตรฐานทั่วไป ไม่ต้องงดน้ำและอาหาร

2.ตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานรู้ผลกี่วัน?
ระยะเวลารอผลส่วนมากจะออกภายใน 1 วันหรือน้อยกว่านั้น ขึ้นอยู่กับความละเอียดของการตรวจ ถ้าตรวจทั่วไป เช่น ความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด ตรวจปัสสาวะ เชื้อไวรัสตับอักเสบ HIV รอผลประมาณ 1 ชั่วโมง หากเป็นรายการตรวจพิเศษ (Special test) เช่น ตรวจปอด จะต้องใช้ระยะเวลานานขึ้น

3. กินยาคุม หรือวิตามิน มีผลกับการตรวจสุขภาพหรือไม่?
ยาคุมเป็นตัวยาเป็นฮอร์โมนเพศในที่มีอยู่ในร่างกายอยู่แล้ว ในการเจาะเลือดตรวจร่างกายจะไม่มีการตรวจหาค่าฮอร์โมน แต่สำหรับวิตามิน ควรงดก่อนตรวจสุขภาพ เพราะจะส่งผลให้มีปริมาณน้ำตาลปนในปัสสาวะสูงกว่าปกติ และทำให้ผลการตรวจคาดเคลื่อนได้

4.ตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน ตรวจเอดส์ไหม?
ในการตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน สามารถตรวจหาเชื้อ HIV ได้ แต่ต้องมีการเซ็นเอกสารยินยอมก่อนเท่านั้น ซึ่งในทางกฏหมายบริษัทไม่มีสิทธิปฏิเสธที่จะรับคนเข้าทำงาน หรือให้พนักงานออกจากงานด้วยเหตุผลว่ามีเชื้อ HIV

ตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานที่ไหนดี?

  1. เลือกสถานที่ตรวจสุขภาพที่ได้มาตรฐาน เช่น โรงพยาบาล
  2. มีการซักประวัติและตรวจร่างกายโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
  3. เลือกแพ็กเกจตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานที่ครอบคลุม ตามที่บริษัทกำหนด
  4. ได้รับผลรวดเร็ว ไม่รอนานเกินไป และมีช่องทางการส่งผลตรวจทางออนไลน์ เช่น Email

สรุป

การตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานไม่ได้ถูกบังคับใช้ทางกฏหมาย เว้นแต่เป็นการตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานในตำแหน่ง หน้าที่ ที่มีความเสี่ยงเท่านั้น แต่ข้อดีของการได้ตรวจสุขภาพก่อนทำงาน นอกจากจะการันตีสุขภาพกับบริษัทแล้ว ตัวเราเองยังได้รู้จักตัวเองมากขึ้น และสามารถวางแผนดูแลสุขภาพให้แข็งแรงต่อไปได้ในระยะยาว
ทั้งนี้ก่อนตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน ควรสอบถามรายละเอียดกับฝ่ายบุลคลให้ชัดเจน ทราบรายการตรวจและความจำเป็นที่ต้องเปิดเผยข้อมูลสุขภาพต่าง ๆ ว่ามีเหตุผลเพียงพอหรือไม่ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาทั้งสองฝ่าย

บทความที่เกี่ยวข้อง

โรคริดสีดวงถือเป็นปัญหาที่กวนใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเจ็บปวดที่รบกวนทางกาย และรบกวนการใช้ชีวิตของใครหลายๆคน ปัจจุบันได้มีทางเลือกในการรักษาผู้ป่วยให้หายขาดได้ โดยที่เจ็บตัวน้อย ฟื้นตัวได้ไว และทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
การส่องกล้องกระเพาะอาหาร หรือ Gastroscopy ไม่เจ็บ สามารถวินิฉัยได้ตรงจุด ตรวจง่าย ปลอดภัย แพทย์สามารถเห็นสาเหตุที่เกิดรอยโรคชัดเจน

News and Subscribe

ท่านสามารถลงทะเบียนเพื่อสมัครรับข่าวสารและโปรโมชั่นแพคเกจ ผ่านทาง Email โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

Malcare WordPress Security