รู้จักโรคเอ็นข้อมืออักเสบ ลักษณะอาการ ใครบ้างที่ต้องระวัง และวิธีการรักษา

โรคเอ็นข้อมืออักเสบ
หากเคยรู้เจ็บแปลบที่ข้อมือ รู้สึกปวด หรือมีอาการบวมตรงข้อมือ ลักษระอาการเหล่านี้ไม่ควรมองข้าม เพราะอาจเสี่ยงโรคเอ็นข้อมืออักเสบ (De Quervain’s Tenosynovitis) ที่ในปัจจุบันพบว่าคนไทยประชาชนคนไทยมีอาการลักษณะนี้มากขึ้น โดยเฉพาะคนที่ใช้ข้อมือหนัก บทความนี้จะ ชวนทุกคนไปรู้จักกับโรคเอ็นข้อมืออักเสบคืออะไร ลักษณะอาการ สาเหตุที่แท้จริง พร้อมแนวทางการรักษา ป้องกัน
สารบัญ โรคเอ็นข้อมืออักเสบ
1. โรคเอ็นข้อมืออักเสบคืออะไร?
2. อาการโรคเอ็นข้อมืออักเสบ
3. โรคเอ็นข้อมืออักเสบ เกิดสาเหตุใด?
4. ใครบ้างที่เสี่ยง เอ็นอักเสบที่ข้อมือ
5. วิธีรักษาเอ็นอักเสบที่ข้อมือ
6. รักษาเอ็นอักเสบที่ข้อมือที่ไหนดี?
โรคเอ็นข้อมืออักเสบคืออะไร ?
โรคเอ็นข้อมืออักเสบ หรือ โรคปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบ (De quervain’s Tenosynovitis) คือ โรคที่เกิดจากการอักเสบของปลอกหุ้มเส้นเอ็น และเส้นเอ็นบริเวณข้อมือตรงโคนนิ้วหัวแม่มือ ส่งผลให้เกิดการกดทับของเส้นเอ็นภายใน จึงเกิดอาการปวด บวมบริเวณโคนนิ้วหัวแม่มือ

De quervain’s Tenosynovitis
โดยส่วนใหญ่พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ถึง 8 เท่า หากปล่อยปละละเลย ไม่ทำการรักษาอย่างถูกวิธี จากความเจ็บปวดเล็กน้อย จะค่อย ๆ เพิ่มความรุนแรงขึ้นจนกลายเป็นโรคเรื้อรัง ที่ทำให้เราต้องปวดทรมานระยะยาวในอนาคต
อาการโรคเอ็นข้อมืออักเสบ
อาการของโรคเอ็นข้อมืออักเสบในเบื้องต้นปวดขึ้นอย่างกะทันหัน หรือเจ็บแปลบข้อมือทุกครั้งที่ยกของผิดองศา แบบค่อยเป็นค่อยไป อาจมีอาการชาที่นิ้วหัวแม่มือ และนิ้วชี้ บางรายที่มีอาการรุนแรงอาจจะมีอาการช้ำ ระบม บริเวณนิ้วโป้งด้านปลายแขนใกล้กับข้อมือ มีเสียงเอี๊ยดอ๊าดเมื่อเอ็นเคลื่อนไหว ส่งผลต่อการใช้งานเนื่องจากจะมีอาการปวดบริเวณนิ้วหัวแม่มือเวลาขยับข้อมือ หรือหยิบกำสิ่งของ
โรคเอ็นข้อมืออักเสบ เกิดสาเหตุใด
สาเหตุหลักของการเกิดโรคเอ็นข้อมืออักเสบ คือ
- การใช้งานข้อมือมากเกินไป หรือ การใช้งานข้อมือลักษณะซ้ำ ๆ บ่อย ๆ
- อุบัติเหตุ ผิดท่า หรือเคยมีการบาดเจ็บบริเวณตำแหน่งนี้มาก่อนทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง นอกจากนี้ยังอาจมีสาเหตุมาจากโรคข้ออักเสบเรื้อรัง เช่น โรครูมาตอยด์ เป็นต้น

สาเหตุโรคเอ็นข้อมืออักเสบ
ใครบ้างที่เสี่ยง เอ็นอักเสบที่ข้อมือ
จากสถิติพบว่า ผู้หญิงมีโอกาสเป็นโรคนี้มากกว่าผู้ชาย โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน รวมไปถึงผู้ที่หญิงที่ออกแรงทำงานบ้าน เช่น การกวาดบ้าน ถูบ้าน บิดผ้า ซักผ้าด้วยมือ เป็นต้น
นอกจากนี้ยังไปได้บ่อย ในช่วงอายุ 30-60 ปี คนที่ทำงานโดยใช้ข้อมือนาน ๆ โดยเฉพาะงานที่ใช้แรงบีบนิ้งโป้งมาก ๆ เช่น การใช้กรรไกร ช่างไม้ พนังงานออฟฟิศที่ใช้ คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน นักกีฬาบางประเภท เช่น แบดมินตัน เทเบิ้ลเทนนิส รวมถึงคนที่เป็นโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
วิธีรักษาเอ็นอักเสบที่ข้อมือ
- หยุดพักการใช้งานข้อมือข้างที่ปวด
- ปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยลักษณะอาการมีความรุนแรงมากน้อยเพียงใด
การรักษาเบื้องต้น หากอาการไม่มากเบื้องต้นแพทย์อาจแนะให้ใช้อุปกรณ์พยุงข้อมือ หลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวของมือ ดูแลให้ข้อมืออยู่ในแนวระนาบเดียวกับแขน การทำกายภาพบำบัด การประคบอุ่น ในบางรายแพทย์อาจแนะนำให้เข้าเฝือกแขน ข้อมือ นิ้วโป้ง เพื่อให้ข้อมือและกระดูกข้อต่อบริเวณใต้นิ้วโป้งอยู่กับที่ เพื่อลดการใช้งานของเส้นเอ็น
การฉีดยาสเตียรอยด์ เพื่อลดการอักเสบ หากด้วยวิธีที่กล่าวมาแล้ว อาการไม่ดีขึ้น แพทย์อาจจะแนะนำให้ฉีดยาสเตียรอยด์ (Steroid) ซึ่งจะใช้ฉีดเพื่อลดการอักเสบ เนื่องจากเป็นยาที่ออกฤทธิ์เร็ว ลดอาการอักเสบได้ดีและตรงจุด โดยส่วนใหญ่จะพิจารณาฉีดสเตรียรอยด์ไม่เกิน 2 ครั้ง หากอาการรุนแรงมากกว่านี้ จำเป็นต้องรักษาด้วยการผ่าตัด
